เป็นเพราะฝน !
สุดจะทน เมื่อสไลด์ไปชนรถในที่ห้ามจอด
จ๊ะจ๋า สาวน้อยสุดโชคร้าย ถูกแฟนบอกเลิกก่อนวาเลนไทน์ จึงต้องับรถกลับบ้านเหงาๆ เพียงลำพังในวันฝนพรำ ซ้ำร้าย เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นระหว่างทางกลับบ้าน …
ณ ถนนเก่าแก่เส้นหนึ่งในมหานครเมืองฟ้าอมร ~
จ๊ะจ๋า สาวสวยสะโอดสะอง กำลังขับรถคู่ใจมาด้วยความเร็วปกติ พร้อมนั่งทำ Mv ในรถยนต์ ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย เพราะเธอเพิ่งถูก พี่วิน แฟนหนุ่มบอกเลิกมาหมาดๆ
ขณะกำลังขับรถมาเรื่อยๆ นั่นเอง ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น !!!
มีผ้าผืนน้อยที่เหมือนกับของผู้หญิงคนใหม่ของอดีตแฟนจ๊ะจ๋าตกอยู่กลางถนน ปลิวมาตรงหน้ารถทำให้เธอตัดสินใจเบรก เพราะตกใจ
แต่โชคไม่เข้าข้าง วันนี้ไม่ใช่วันของจ๊ะจ๋าจริงๆ
เมื่อจ๊ะจ๋าตัดสินใจเบรก รถเจ้ากรรมดันเบรกไม่อยู่ ทำให้เธอไถลไปชนกับรถเก๋งที่อยู่ด้านหน้า วีกิจเจ้าของรถที่กำลังลงไปซื้อของให้อาม่า หันมาเห็นเหตุการณ์พอดี แต่ก็สายเสียแล้ว ลูกรักของเขาถูกจ๊ะจ๋าสอยด้านข้างเข้าเต็มเปา
วีกิจรีบรุดมาดูสภาพ ต๊งเหน่ง รถลูกรักที่เขาเฝ้าฟูมฟักทะนุถนอมมาอย่างดีชนิดยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมด้วยความโมโห
ทั้งวีกิตและจ๊ะจ๋า ต่างเริ่มมีอารมณ์โทสะพุ่งขึ้นตามสภาพอากาศที่อับชื้นและเหนียวเหนอะ เพราะสายฝนที่โปรยลงมาปรอยๆ
เดือดร้อนถึงหนุ่มเจ้าหน้าที่ประกันรูปงามต้องออกโรงเคลียร์การณ์ชุลมุนชุลเกให้เรียบร้อย
เจ้าหน้าประกันหนุ่มแถลงข้อเท็จจริงตามกฎหมายที่เค้าได้ร่ำเรียนมา
สถานการณ์ก็จบลงด้วยประการฉะนี้
สรุป*
จ๊ะจ๋า เป็นฝ่ายประมาท เนื่องจากเหตุเกิดขณะฝนตกทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดีและการควบคุมรถทำได้ยาก ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติและควรลดความเร็วเพื่อความปลอดภัย แต่จ๊ะจ๋าไม่ได้ใช้ความระมัดระวังมากพอทำให้รถลื่นเพราะเบรกไม่อยู่ เป็นการขับขี่โดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินได้ โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและเดือดร้อนของผู้อื่น เป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓(๔),(๘)
แม้ว่า รถของวีกิจจะจอดรถในเขตที่มีเครื่องหมายจราจรห้ามจอดรถ เป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕๗(๕) แต่ก็ไม่ใช่การจอดในลักษณะกีดขวางการจราจร เพราะจอดรถทางด้านซ้ายของทางเดินรถ ในช่องทางเดินรถที่มีตั้งแต่สองช่องทางขึ้นไป
ข้อเท็จจริงเป็นยุติ ไม่มีข้อเท็จจริงเกี่ยวข้องกับการจอดรถวีกิจ ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยหรือฝ่าฝืน ตามมาตรา ๖๑ ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๒๒)
เกร็ดกฎหมาย*
มาตรา ๔๓ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถ
(๓) ในลักษณะกีดขวางการจราจร
(๔) โดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ด้านหน้าหรือด้านหลัง ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้านได้พอแก่ความปลอดภัย
(๘) โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและเดือดร้อนของผู้อื่น
มาตรา ๕๗ เว้นแต่จะได้มีบทบัญญัติ กฎ หรือข้อบังคับตามพระราชบัญญัตินี้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ห้ามมิให้ผู้ขับขี่จอดรถ
(๕) ในเขตที่มีเครื่องหมายจราจรห้ามจอดรถ
(๑๕) ในลักษณะกีดขวางการจราจร
มาตรา ๖๑ ในเวลาที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอที่ผู้ขับขี่จะมองเห็นรถที่จอดในทางเดินรถได้โดยชัดแจ้งในระยะไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบเมตร ผู้ขับขี่ซึ่งจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทางต้องเปิดไฟหรือใช้แสงสว่างตามประเภท ลักษณะ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒
ข้อ ๑๔ ในเวลาที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอที่ผู้ขับขี่จะมองเห็นรถที่จอดในทางเดินรถได้โดยชัดแจ้งในระยะไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบเมตร ให้ผู้ขับขี่ซึ่งจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทางปฏิบัติดังต่อไปนี้
(๑) ใช้โคมไฟเล็ก โคมไฟท้าย และโคมไฟส่องป้ายทะเบียนรถในกรณีที่เป็นรถที่อยู่ในความควบคุมของกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก
(๒) ใช้โคมไฟเล็ก โคมไฟท้าย และโคมไฟส่องป้ายทะเบียนรถ ในกรณีที่เป็นรถยนต์
หมายเหตุ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นการพิจารณาว่าฝ่ายใดประมาทนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานต่างๆ คำถามต้องให้ชัดเจน มิฉะนั้นทำให้ตอบคลาดเคลื่อนได้