ไม่ต้องชิงโชค!
แนะนำทริปเที่ยวญี่ปุ่นแบบคนงบน้อย
ใครๆก็ไปญี่ปุ่น!! อยากไปบ้างจังแต่งบมีไม่มากทำยังไงดี? พี่หมีบอกเลยว่าถึงมีงบน้อยก็เที่ยวได้ถ้าเราวางแผนมาดี วันนี้มีทริคเล็กๆมาฝากกันแล้วครับ แถมแพลนเที่ยว 4 คืน 3 วันแบบคร่าวๆให้ด้วย พร้อมยัง? ลุยเลย
ติดตามข่าว ปูเสื่อรอตั๋วโปร
อย่างแรกเลย เล็งไว้ให้ดีเจ้าไหนมีโปรเมื่อไหร่ เพราะตั๋วไปญี่ปุ่นราคาปกติก็ปาไป 17,xxx อัพไปแล้ว เดี๋ยวนี้สายการบิน low cost มีให้เลือกมากมาย ถ้าได้ตั๋วโปรมารับรองว่าจะช่วยประหยัดงบคุณได้เกือบหมื่นเลยหละ อีกอย่างยิ่งจองตั๋วล่วงหน้าราคาก็ยิ่งดีนะ จะไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องแพลนชีวิตล่วงหน้ากันหน่อยเนอะ
เลือกนอนโฮสเทลเก๋ๆได้ คืนละไม่ถึงพัน
ถ้าคุณไม่ซีเรียสเรื่องที่พักมาก สามารถใช้ห้องน้ำรวมได้ไม่มีปัญหา พี่หมีแนะนำให้เลือกโฮสเทลเลยครับ เพราะมีที่สะอาดๆเลือกพักมากมาย ช่วยประหยัดงบไปได้เยอะเลย ราคาต่ำสุดเริ่มที่คืนละ 2,000 เยน/คน (ประมาณ 600 กว่าบาทไทย) เท่านั้น แถมบางที่ก็ดีไซน์ดีมาก ข้อดีอีกอย่างของโฮสเทลคือคุณจะได้เจอกับนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ เผลอๆ อาจจะได้เพื่อนร่วมทริปคนใหม่อีกด้วยนะ
Day 1 วัดเซ็นโซจิ - Tokyo Sky tree - สวน Ueno - ตลาด Ameyoko
ข้าวเช้าจากพุ่งตัวไป Lawson หามื้อเช้าประหยัดๆกินกันแบบสบายกระเป๋า แล้วไปเปิดทริปกันด้วยความมงคลที่ วัดเซ็นโซจิ หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า วัดอาซากุสะ วัดที่มีโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์ ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม พัดควันธูปเข้าหาตัวเพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิตกัน ระหว่าทางยังมีของกิน และของที่ระลึกมากมาย ระวังเงินในกระเป๋าไว้ดีๆนะ^^
จบจากวัดแล้ว ไปเดินเล่นกันต่อดูวิวแม่น้ำ Sumida เดินข้ามมานิดเดียว ก็จะเห็น ตึก Tokyo Sky tree เดินเพลินๆ ส่วนใครที่อยากไปเข้าไปในสกายทรี ก็ลุยได้เลย หรือจะแวะจิบช็อคโกแล็ตร้อนชิลๆ ที่ชั้นล่างก็ได้นะ จากนั้นไปเดินเล่นต่อใกล้ๆ ที่สวนสาธารณะอุเอโนะกัน ถ้าไปช่วงซากุระรับรองว่ายิ่งฟินมาก จะหาของทานเล่นไปนั่งปิคนิคเหมือนชาวปลาดิบกันก็ได้นะจ๊ะ สุดท้ายใครที่อยากจะช้อปปิ้งของฝาก ขนมขบเคี้ยวต่างๆ ที่ตลาด Ameyoko มีให้พร้อมแถมราคาก็ไม่แพงอีกด้วย
Day 2 Imperial Palace-Akihabara-Tokyo Station
เริ่มวันที่สองด้วยการไปเดินถ่ายรูปเล่นกันที่ Imperial Palace ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ต้องมาถ่ายรูปสะพานแว่นตา สะพานเลยสะท้อนน้ำใสๆ สวยๆ ไปเดินเล่นกันต่อที่ Akihabara ย่านที่ได้ชื่อว่าเป็นย่านอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เกมส์ การ์ตูน โมเดล ฯลฯ มากมาย ใครมาก็ต้องแวะ ระวังล้มละลายกันด้วย
ตบท้ายกันที่ที่สุดท้ายสถานีจุดศูนย์กลางของการรถไฟญี่ปุ่น จุดเด่นของที่นี้คือ อาคารอิฐแดง ที่ยังคงรูปแบบสถาปัตกรรมดั้งเดิมเอาไว้ พอตกเย็นมีการเปิด Light Up ได้ภาพสวยงาม เรายังไปเจอมุมถ่ายรูปสวยๆ แบบฟรีๆ ให้ไปถ่ายกันให้หนำใจเลยจ้า
Day 3 ศาลเจ้า Meiji -Harajuku- Shibuya รูปปั้นเจ้าหมาฮาชิ - Shin-juku ( Day 4 - Free day)
วันนี้ก็ช้อปปิ้งวนไป หรือใครไม่ช้อปจะไปเดินถ่ายรูปเล่นๆเก๋ๆ หาอะไรทานหน่อยก็โอเคเลย เพราะ 3 ย่านนี้ใกล้ๆกันหมดครับ ลองสลับๆดูได้ไม่มีปัญหา เริ่มต้นกันด้วยย่าน Harajuku ใครอยากดูคอสเพลย์จากการ์ตูนดังๆ ให้มาวันอาทิตย์นะครับ คึกคักมาก แต่แถวๆนี้ก็ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมาก ทั้งสถานีโทรทัศน์ NHK สถานีโทรทัศน์เจ้าเก่าของญี่ปุ่น ที่เปิดให้ชม และศาลเจ้าเมจิ ร่มรื่นไปด้วยพันธ์ไม้และต้นไม้ขนาดใหญ่ ถ้าโชคดีอาจได้เจอคู่แต่งงานมาทำพิธีด้วยนะ
ลุยกันต่อที่ Shibuya มาที่นี่อย่าลืมมาหาเจ้าฮาจิ รูปปั้นน้องหมานี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีตรงทางออก Hachiko แล้วไปถ่ายรูปชิคกันที่ 5 แยกวุ่นวายที่มีคนข้ามถนนต่อวันจำนวนมหาศาล ถ้ามีงบหน่อย พี่หมีแนะนำให้ไปลิ้มรส มิโดริซูชิ สาขาชิบูย่า รับรองว่าฟินมาก ซูชิดีมาก พี่หมีแนะนำ!
สุดท้าย Shinjuku สถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น ใครได้มา รับรองว่าต้องได้หลงสักครั้ง ที่นี่มีทั้งแหล่งช้อปปิ้ง มิวเซียม ร้านเกมส์ ร้านอาหารดังๆ มากมาย บรรยายไม่หมดเลยทีเดียว สำหรับใครที่ยังช้อปไม่พอ มาจบที่นี่ก็ได้ครับ
เป็นยังไงบ้างครับกับทริปเที่ยวแดนปลาดิบที่พี่หมีเลือกมาให้เป็นไกด์คร่าวๆ กัน เพื่อนสามารถเอาไปปรับใช้ได้สบายๆนะ ใครไปโตเกียวก็ลองวาง แพลนดูไม่ยากอย่างที่คิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าประหยัดจนเกินไปจนหมดสนุกนะคร้าบ ที่สำคัญถ้าเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ อย่าลืมทำ
ประกันเดินทาง ไว้ด้วยนะครับจะได้อุ่นใจไม่ว่าไปเที่ยวไหน โทรสายตรงปรึกษาพี่หมีได้ที่
Hotline 1737 หรือ ที่เว็บไซต์
www.tqm.co.th ได้เลยครับ