เหตุเกิดเพราะเลี้ยวผิดจังหวะ

แต่ด้วยความโก๊ะ โป๊ะแตกของวัน เปรมมี่ดันลืมคอนแทคเลนค่าสายตา 100 ปลายๆ ไว้ที่บ้าน ทำให้เธอเกิดอาการขับรถไม่ตรงเส้นถนนนิดหน่อย แต่ยังมีความพยายามจะหักกลับมาให้ตรงเลน 

 

ตัดภาพมาที่ จิ๋ง หนุ่มวัยสะรุ่นแห่งย่านคู้บอง ขี่มอเตอร์ไซค์คันงามตามรถสปอร์ตสีเงินสุดเฟี้ยวฟ้าวมาเรื่อยๆ 

 

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้จิ๋งรู้สึกเห็นแล้วรำคาญใจ คือเห็นอาการขับแบบละล้าละลังคร่อมเลนไปมา เขาจึงตัดสินใจพยายามขับแซงทางด้านขวา แต่ท่วา … 

 

จังหวะที่จิ๋งกะไว้พลาดไปนิด เมื่อจู่ๆ รถสปอร์ตคันงามตบกลับเข้ามาในเลนขวาเสียอย่างนั้น ทำให้ท้ายไปเฉี่ยวโดนมอเตอร์ไซค์ของจิ๋งล้มกลิ้งหลุนๆ ไป 3 สามตลบ

 

เมื่อสถานการณ์เริ่มไม่เป็นใจ เดือดร้อนถึงคุณเจ้าหน้าที่ประกันภัยต้องออกโรงเคลียร์อีกแล้ว 

 

เจ้าหน้าที่ประกันภัยเริ่มต้นแถลงการณ์ด้วยภาษาดอกไม้

 

เปรมมี่ ทำหน้าเหวอออ ในขณะที่จิ๋งยิ้มกริ่มอย่างพึงใจที่เขาไม่ได้เป็นฝ่ายผิด 

 

เจ้าหน้าที่ประกันภัยตีสีหน้าขรึมขึ้น

 

ตัดภาพมาที่จิ๋งก็มีอาการสะอึกเล็กน้อยเพราะโดนพาดพิง 

 

สรุป*

   รถยนต์ของเปรมมี่ ประมาทมากกว่า โดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้ขับขี่อาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ เป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๑, ๓๓ และ ๔๓(๓)(๔)(๖)(๘) เพราะเปรมมี่รถยนต์ ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรประเภทเครื่องหมายบนพื้นทาง รวมทั้งต้องขับขี่ไม่ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถ โดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ขับขี่โดยคร่อมหรือทับเส้นหรือแนวแบ่งช่องเดินรถ โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและเดือดร้อนของผู้อื่น แม้รถมอเตอร์ไซค์ของจิ๋ง จะขับขี่โดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรประเภทเครื่องหมายบนพื้นทาง ห้ามแซงก็ตาม เนื่องจากอุบัติเหตุดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้นเพราะความประมาทและคำนึงถึงการผ่าฝืนกฎหมายที่มากกว่าของเปรมมี่