เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
รายละเอียดที่อยู่อาศัย
เลือกประเภทที่อยู่อาศัย *
บ้านเดี่ยว
บ้านแฝด
ทาวน์โฮม
คอนโด
ตึกแถว
โครงสร้างบ้าน *
จำนวนชั้น *
ลักษณะการใช้งานบ้าน *
ตำแหน่งบ้านของคุณ *

|
อ่านแล้ว 149 ครั้ง
ในช่วงหน้าร้อนของประเทศไทย อุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วสามารถทำให้ภายในบ้านอบอ้าวจนแทบทนไม่ไหว โดยเฉพาะบริเวณใต้หลังคาที่เป็นจุดรับแดดโดยตรงตลอดทั้งวัน ความร้อนที่สะสมอยู่นี้จะถ่ายเทลงสู่ภายในบ้าน ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก ค่าไฟพุ่งสูง และสุขภาพของคนในบ้านก็อาจได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่สูงเกินไป ดังนั้นการหาวิธีระบายความร้อนใต้หลังคาจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะถ้าเป็นวิธีที่ทำเองได้ ไม่ต้องเสียค่าแรงช่าง วันนี้พี่หมี TQM มีวิธี DIY ระบายความร้อนใต้หลังคาบ้านแบบประหยัด ที่คุณสามารถทำเองได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเรียกช่าง พร้อมช่วยประหยัดค่าไฟและยืดอายุการใช้งานของหลังคาบ้านอีกด้วย
หลายคนอาจไม่รู้ว่าความร้อนใต้หลังคาส่งผลโดยตรงต่ออุณหภูมิภายในบ้านมากกว่าที่คิด เพราะหลังคาบ้านเป็นส่วนแรกที่รับแสงแดดแบบเต็ม ๆ ในช่วงกลางวัน และเมื่อสะสมความร้อนมาก ๆ จะทำให้ฝ้าเพดานและผนังบ้านร้อนตามไปด้วย ซึ่งการเปิดแอร์อาจช่วยบรรเทาได้ในระยะสั้น แต่ก็ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะยาว ที่สำคัญคือ ความร้อนสะสมยังส่งผลให้วัสดุภายในเสื่อมสภาพเร็ว เช่น ฝ้าเพดานบวมหรือแตกร้าว ฉนวนละลาย หรือไม้แห้งกรอบ การเริ่มจัดการที่ต้นเหตุจึงช่วยให้บ้านเย็นลงอย่างยั่งยืน พร้อมประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัว
แผ่นสะท้อนความร้อนเป็นหนึ่งในวิธีที่คุ้มค่าที่สุดในการป้องกันความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่บ้าน เพราะแผ่นนี้จะทำหน้าที่สะท้อนรังสีความร้อนกลับออกไป ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนเข้าสู่โครงสร้างฝ้าและห้องต่าง ๆ ด้านล่าง วิธีติดตั้งก็ไม่ยุ่งยาก ใช้เพียงแม็กยิงหรือเทปทนความร้อนติดไว้ที่ใต้โครงหลังคาหรือใต้กระเบื้อง หากบ้านมีช่องว่างพอ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการสะท้อนความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
อีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่เจ้าของบ้านสามารถทำเองได้ก็คือการติดฉนวนกันความร้อนแบบม้วน ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายประเภท เช่น PE Foam ที่มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย หรือใยแก้วที่มีคุณสมบัติดูดซับความร้อนดีเยี่ยม ติดตั้งไว้เหนือฝ้าเพดานหรือใต้หลังคาโดยตรง ช่วยกันความร้อนไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับบ้านที่สร้างมานานหรือยังไม่มีระบบป้องกันความร้อนติดตั้งไว้
พัดลมระบายอากาศเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่เหมาะกับบ้านในเขตร้อนแบบไทย มีทั้งแบบใช้ไฟฟ้าและแบบหมุนด้วยแรงลมธรรมชาติ (Turbine Ventilator) ซึ่งไม่ต้องเสียค่าไฟเพิ่ม การติดตั้งบริเวณหลังคาช่วยดูดไล่อากาศร้อนที่สะสมออกไป ทำให้การหมุนเวียนอากาศภายในบ้านดีขึ้น อุณหภูมิในบ้านลดลงอย่างชัดเจน วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีฝ้าปิดทึบหรือมีพื้นที่ใต้หลังคาที่อับชื้น
สีสะท้อนความร้อน (Cool Roof Paint) เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้หลังคาไม่ดูดซับความร้อนจากแสงแดด สีประเภทนี้มีคุณสมบัติสะท้อนแสงได้สูง ทำให้ลดความร้อนที่เข้าสู่โครงสร้างหลังคาและบ้านโดยรวมได้มาก เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการลดความร้อนโดยไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์เสริม วิธีนี้อาจต้องใช้เวลาในการทา แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
นอกจากวิธี DIY ที่กล่าวมาแล้ว การมี ช่องลมระบายอากาศใต้หลังคา เช่น ช่องลมระแนง หรือบานเกล็ด ก็สามารถช่วยให้อากาศหมุนเวียน ไม่อับชื้น และไม่สะสมความร้อนมากเกินไป อีกทั้งการปลูกต้นไม้รอบบ้าน โดยเฉพาะในทิศที่โดนแดดจัด เช่น ทิศตะวันตกหรือทิศใต้ จะช่วยให้ร่มเงาและลดความร้อนที่สะสมบริเวณผนังบ้านได้เป็นอย่างดี วิธีธรรมชาติเหล่านี้ นอกจากจะประหยัดค่าไฟแล้วยังเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้านอีกด้วย
หลายคนอาจสงสัยว่า การลงทุนลงแรงทำ DIY เพื่อระบายความร้อนใต้หลังคาจะคุ้มค่ากับค่าไฟที่ลดลงจริงหรือไม่? คำตอบคือ “ช่วยได้จริง และเห็นผลได้ชัดเจน” เพราะความร้อนที่สะสมใต้หลังคาคือหนึ่งในต้นเหตุหลักที่ทำให้บ้านร้อนอบอ้าว และทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินจำเป็น
เมื่อสามารถจัดการกับต้นตอของความร้อนใต้หลังคาได้ เช่น ติดแผ่นสะท้อนความร้อน, ใส่ฉนวน, หรือใช้พัดลมระบายอากาศ อุณหภูมิภายในบ้านจะลดลงเฉลี่ยประมาณ 2–5 องศาเซลเซียส ซึ่งฟังดูเหมือนเล็กน้อย แต่ส่งผลอย่างมากต่อการทำงานของแอร์ เพราะแอร์ไม่ต้องเร่งทำงานหนักเพื่อดึงอุณหภูมิลง ทำให้ใช้ไฟน้อยลง และยังยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย
บ้านบางหลังที่มีการปรับปรุงระบบระบายร้อนใต้หลังคาอย่างเหมาะสม สามารถลดค่าไฟได้ ตั้งแต่ 10% ไปจนถึง 30% ต่อเดือน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่เครื่องปรับอากาศทำงานเกือบตลอดวัน ดังนั้นการระบายความร้อนใต้หลังคา ไม่ได้ช่วยแค่เรื่อง “ความเย็น” เท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณประหยัดในระยะยาวอีกด้วยครับ
แม้ว่าการ DIY ระบายความร้อนใต้หลังคาจะเป็นวิธีต้นทางที่ช่วยลดอุณหภูมิในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าต้องการให้บ้านเย็นสบายอย่างต่อเนื่องตลอดวัน การพิจารณาองค์ประกอบอื่น ๆ ร่วมด้วยก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะความร้อนสามารถเข้าสู่บ้านได้จากหลายทิศ ไม่ใช่แค่จากด้านบนเท่านั้น
กระจกใสทั่วไปเป็นตัวดูดซับความร้อนอย่างดี การเปลี่ยนเป็นกระจกเขียวตัดแสงหรือฟิล์มกันร้อน จะช่วยลดการถ่ายเทความร้อนจากแสงแดดสู่ภายในห้องได้อย่างเห็นผล โดยเฉพาะบริเวณห้องที่โดนแดดจัดตอนบ่าย
สีบ้านมีผลต่อการดูดหรือสะท้อนความร้อน สีโทนอ่อน เช่น ขาว ครีม เทาอ่อน มีคุณสมบัติสะท้อนแสงแดดได้ดีกว่าสีเข้ม นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้สีสูตร Cool Paint สำหรับผนังบ้านภายนอก ที่ช่วยลดการสะสมความร้อนตามผนังได้อีกระดับ
ลมธรรมชาติคือเครื่องปรับอากาศฟรีจากธรรมชาติ ถ้าออกแบบบ้านให้มีช่องลมที่สอดรับกับทิศทางลม จะช่วยให้ภายในบ้านถ่ายเทอากาศได้ดี ไม่ร้อนอบอ้าวแม้จะไม่ได้เปิดแอร์ทั้งวัน
ต้นไม้ใหญ่บริเวณรอบบ้าน โดยเฉพาะทางทิศตะวันตกและใต้ จะช่วยบังแดดและลดอุณหภูมิภายนอกได้อย่างดี นอกจากช่วยบ้านเย็นแล้วยังเพิ่มความสดชื่นให้บ้านด้วย
แม้จะ DIY ให้บ้านเย็นลงได้ด้วยวิธีง่าย ๆ แต่การดูแลบ้านให้ปลอดภัยจากเหตุไม่คาดฝัน เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือพายุ ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน พี่หมีขอแนะนำ ประกันบ้านและคอนโด ที่คุ้มครองทั้งตัวบ้านและทรัพย์สินภายในอย่างครอบคลุม เพื่อให้คุณอุ่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บ้านของคุณก็ยังมีเกราะป้องกันที่ไว้ใจได้ สนใจเช็คแผนประกันบ้านได้ที่นี่ หรือโทรปรึกษาเรื่องประกันภัย 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดที่อยู่อาศัย
เลือกประเภทที่อยู่อาศัย *
บ้านเดี่ยว
บ้านแฝด
ทาวน์โฮม
คอนโด
ตึกแถว
โครงสร้างบ้าน *
จำนวนชั้น *
ลักษณะการใช้งานบ้าน *
ตำแหน่งบ้านของคุณ *