ประกันสุขภาพ ที่ควรทำเพิ่มจากประกันสังคม

 

หากคุณเป็นพนักงานบริษัท แม้ว่าจะเบิก “ประกันสังคม” ในค่ารักษาพยาบาลได้ แต่ก็ต้องเดินทางไปรักษายังโรงพยาบาลที่มีสิทธิ์เบิกเท่านั้น  ส่วนห้องรักษาก็เลือกไม่ได้ ค่ารักษาพยาบาลบางโรคก็จำกัด วันนี้ TQM มีคำแนะนำมาบอกให้แก่ผู้ประกันตนทั้งหลายทราบว่า หากต้องการทำประกันสุขภาพเพิ่มเองนั้น จะต้องพิจารณาในข้อใดเป็นพิเศษ

 

 

1. ค่าห้องพัก

 

“ค่าห้อง” เป็นหัวข้อแรกที่ผู้ประกันตนที่พอมีรายได้เกิน 15,000 บาท ขึ้นมาเลือกที่จะอัพเกรดห้อง เนื่องจากไม่ต้องการนอนรวมกับผู้ป่วยอื่น ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน รวมถึงอยากมีความเป็นส่วนตัวเมื่อญาติมาเยี่ยม ดังนั้นจึงอยากเลือกห้องพักเดี่ยว ซึ่งหากอยากนอนห้องแยก ประกันสังคมจะจ่ายจำกัดต่อคืนสูงสุดเพียง 2 คืน คืนละ 900 บาท เท่านั้น  หลังจากนั้นต้องมานอนห้องรวม

 

2. ค่ารักษาพยาบาล

 

ในกรณีที่คุณคิดว่าโรงพยาบาลประกันสังคมของคุณอยู่ไกลบ้าน  สามารถย้ายโรงยาบาลประกันสังคมได้ ก่อนช่วงวันที่ 31 มีนาคม 2561 ของทุกปี และหากย้ายไม่ทัน ก็ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลที่ไม่ใช่โรงพยาบาลประกันสังคม ซึ่งหากเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาลขึ้นมา ค่ารักษาเกิน 10,000 บาท แต่เบิกได้สูงสุด ประมาณ 3,700 บาท ต่อครั้ง (ขึ้นอยู่ตามกรณี) ซึ่งจะทำให้คุณเสียเงินเก็บไปโดยปริยาย

 

3. โรคร้ายแรง

 

กรณีเจ็บป่วยโรคร้ายแรง อย่าง ตระกูลมะเร็ง และ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง จะมียาบางตัวที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ประกันสังคมจะเบิกได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น  ประกันสุขภาพหรือประกันโรคร้ายแรงจากประกันชีวิตจะจ่ายค่าตกใจให้ หากเจอโรค อาจจะได้เงินสูงถึง 200,000 บาท เพื่อเตรียมตัวกับการรักษา (วงเงินขึ้นอยู่กับทุนประกันที่คุณจ่าย)

 

4. ชดเชยรายได้รายวัน

 

ประกันสังคมมีค่าชดเชยรายได้รายวันให้กรณีหยุดงานเกิน 30 วันขึ้นไป* แต่ประกันสุขภาพจากบริษัทประกัน ชดเชยรายได้ให้ตั้งแต่วันแรกที่นอนโรงพยาบาล

 

** เบิกได้ไม่เกินครั้ง 90 วัน ของรอบปฏิทิน และใน 1 ปี เบิกได้สูงสุด 180 วัน เบิกได้เพียง 50% ของค่าจ้างที่ได้รับจากนายจ้าง ที่ไม่เกิน 15,000 บาท

 

 

ทั้ง 4 ข้อ เป็นเงื่อนไขที่ต้องพิจารณาเพิ่มเมื่อจะทำประกันสุขภาพ ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานอายุงานน้อย ๆ ก็อาจจะยังไม่เห็นว่าควรจะทำประกันชีวิต หรือ ประกันสุขภาพเพิ่มเติม แต่เมื่ออายุเข้า 30 ปี ขึ้นไป เริ่มออกอาการเจ็บป่วยบางอย่างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับการทำงาน หรือ โรคประจำตัวที่ได้รับถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม ซึ่งหลักการของการทำประกันมีดังนี้

 

•  ประกันชีวิต ควรทำตั้งแต่อายุน้อย ๆ เพื่อป้องกันการปรากฎโรคที่ยังไม่ได้เป็น อาทิ ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, มะเร็ง, โรคหัวใจ เลือกทุนประกันได้ตั้งแต่ 100,000 บาท เป็นต้นไป

• ประกันสุขภาพ ต่ออายุรายปี หรือ ทำสัญญาเพิ่มเติมกับประกันชีวิตได้ แต่หากเจอโรคร้ายแรงแล้ว ทางบริษัทประกันก็ไม่รับทำเหมือนกัน เลือกคุ้มครองค่ารักษาได้ทั้ง OPD และ IPD

• ประกันอุบัติเหตุ เหมาะสำหรับผู้ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตเสี่ยงภัย หรือ ต้องขับขี่รถยนต์และเดินทางอยู่บ่อย ๆ ซึ่งมีค่าเบี้ยเริ่มต้นหลัก 100 บาท ต่อเดือนเท่านั้น

 

ป่วยแบบไหนก็ไม่คุ้มค่าทั้งนั้น หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแบบประกันที่ต้องทำกับบริษัท ก็สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับตัวแทนให้เข้าใจชัดเจน เพื่อความสบายใจในช่วงเวลาที่เจ็บป่วยนะครับ!