06/05/68

|

อ่านแล้ว 43 ครั้ง

ฝนร้อยปีคืออะไร? เหตุการณ์ที่อาจเกิดซ้ำได้ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวในชีวิต

    หลายคนคงเคยได้ยินข่าวว่า “ฝนร้อยปี” ถล่มเมืองจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน แต่เคยสงสัยไหมครับว่าจริง ๆ แล้ว “ฝนร้อยปี” คืออะไรกันแน่? ทำไมถึงมีพลังทำลายล้างมากกว่าฝนธรรมดา? และถ้าเกิดขึ้นจริงเราควรรับมือยังไงดี วันนี้พี่หมี TQM จะพาไปทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ อ่านแล้วรู้เรื่อง พร้อมแนะนำวิธีเตรียมตัวเพื่อไม่ให้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญกับพลังของธรรมชาติที่อาจมาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัว

 

ฝนร้อยปีคืออะไร? ไม่ได้แปลว่า 100 ปีจะเกิดทีนะ

    ฝนร้อยปีคืออะไร? คำนี้ฟังดูเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวในรอบศตวรรษใช่ไหมครับ? แต่จริง ๆ แล้ว “ฝนร้อยปี” ไม่ได้แปลว่า ต้องรอครบ 100 ปีจึงจะเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง แต่หมายถึงปรากฏการณ์ฝนตกหนักมากในระดับที่มีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1% ในแต่ละปี หรือเรียกอีกแบบว่า “ฝนหนักระดับร้อยปี” (100-Year Rainfall Event) ซึ่งในเชิงสถิติ คือฝนที่ตกในปริมาณมหาศาลกว่าค่าเฉลี่ยปกติหลายเท่า ภายในระยะเวลาอันสั้น เช่น 1 ชั่วโมง หรือ 24 ชั่วโมง

 

    พูดง่าย ๆ คือ ฝนร้อยปีอาจเกิดขึ้นในปีนี้ก็ได้ หรือเกิดซ้ำในปีหน้าเลยก็มีโอกาส เพราะมันไม่ใช่ฝนที่ต้องนับวันรอ แต่มันคือฝนที่ “รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี” ซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง ก็อาจสร้างความเสียหายหนักกว่าฝนธรรมดาทั่วไปหลายเท่าตัว

 

    ลักษณะของฝนร้อยปี คือ ฝนที่ตกต่อเนื่องและหนักมากในระยะเวลาอันสั้น จนระบบระบายน้ำของเมืองรับไม่ไหว ทำให้น้ำท่วมฉับพลัน พื้นที่ลุ่มต่ำกลายเป็นแอ่งน้ำ บ้านเรือน ร้านค้า หรือแม้แต่ถนนก็อาจกลายเป็นคลองได้ในพริบตา และในบางพื้นที่อย่างลาดเขาหรือชายฝั่ง ก็อาจเผชิญกับน้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ หรือคลื่นพายุได้เลยทีเดียว

ฝนร้อยปีคืออะไร

ตัวอย่างเหตุการณ์ฝนร้อยปีที่เคยเกิดขึ้น

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น พี่หมีขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดเหตุอุทกภัย ฝนร้อยปี ที่เคยสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ เช่น

  • ประเทศไทย ปี 2554 : หลายคนคงยังจำมหาอุทกภัยที่เริ่มจากน้ำฝนสะสมหนักในภาคเหนือและไหลลงมายังภาคกลาง ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ และหลายจังหวัดจนต้องอพยพประชาชนจำนวนมาก

  • กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ปี 2022 : มีฝนตกสะสมมากกว่า 400 มม. ในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง ส่งผลให้น้ำท่วมในเขตเมืองชั้นใน มีผู้เสียชีวิตและความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล

  • ปากีสถาน ปี 2022 : เผชิญกับฝนร้อยปีที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ ผู้คนกว่า 33 ล้านคนได้รับผลกระทบ มีบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรเสียหายอย่างหนัก

 

ทำไมฝนร้อยปีถึงอันตราย?

    ฝนร้อยปีไม่ใช่แค่เรื่องของ “ปริมาณน้ำฝน” ที่มากกว่าปกติ แต่ยังรวมถึง “ความเร็วในการเกิด” และ “พื้นที่ที่รับผลกระทบ” ด้วย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีพื้นที่คอนกรีตเยอะ ระบบระบายน้ำมักไม่สามารถรับน้ำได้ทัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในเวลาอันรวดเร็ว

 

    อันตรายที่ตามมามีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

 

  • น้ำท่วมขังบ้านเรือน อาคาร ยานพาหนะ

  • ระบบคมนาคมเสียหาย ทำให้คนเดินทางไม่ได้

  • ความเสียหายต่อธุรกิจและทรัพย์สิน

  • การเจ็บป่วยจากน้ำสกปรก โรคระบาด น้ำกัดเท้า

  • ความเสี่ยงจากกระแสไฟฟ้ารั่วในพื้นที่น้ำท่วม

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เสี่ยงซ้ำ เช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ ที่มีระบบระบายน้ำที่ยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร

 

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าฝนที่ตกนั้นระดับ “ร้อยปี” หรือไม่?

    ในทางวิชาการจะใช้ข้อมูลทางสถิติมาวิเคราะห์ครับ เช่นปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในรอบ 30–50 ปีย้อนหลัง เพื่อหาค่าเฉลี่ยสูงสุด และคำนวณว่าในระดับไหนจึงจะถือว่าเป็น “ฝนร้อยปี” หรืออาจมีการประเมินร่วมกับความสามารถของระบบระบายน้ำในพื้นที่

    แต่สำหรับประชาชนทั่วไปแล้ว แม้จะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการว่า “นี่คือฝนร้อยปี” ก็ควรเริ่มใส่ใจและประเมินสถานการณ์เบื้องต้นด้วยตัวเอง หากพบว่าฝนตกหนักต่อเนื่องเกินกว่า 1–2 ชั่วโมง น้ำเริ่มระบายไม่ทัน หรือสภาพแวดล้อมรอบตัวมีความเปลี่ยนแปลงผิดปกติ เช่น น้ำเริ่มท่วมขังอย่างรวดเร็ว หรือระดับน้ำในคลองไหลแรงขึ้นผิดปกติ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่ากำลังเผชิญกับฝนระดับรุนแรงที่ควรเตรียมตัวรับมือไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนในครอบครัวครับ

    สำหรับการเช็กสถานการณ์ฝนตกแบบเรียลไทม์หรือความเสี่ยงฝนร้อยปีในพื้นที่ของเรา สามารถติดตามข้อมูลได้จากแหล่งต่าง ๆ เช่น

  • เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา (TMD) : www.tmd.go.th ซึ่งให้พยากรณ์อากาศล่วงหน้า 7 วัน พร้อมเรดาร์ตรวจจับฝน

  • แอปพลิเคชัน Thai Weather หรือ TMD Weather : ติดตามปริมาณฝนและการเตือนภัยเฉพาะพื้นที่แบบรายชั่วโมง

  • เว็บไซต์ Hydro-Informatics Institute (HII) : www.hii.or.th ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับฝนสะสม ปริมาณน้ำฝน และน้ำท่วม

  • เพจเฟซบุ๊ก “พยากรณ์อากาศประเทศไทย” หรือหน่วยงานท้องถิ่น : ที่มักอัปเดตสถานการณ์ฝนแบบทันเหตุการณ์

    การติดตามข้อมูลจากแหล่งเหล่านี้อย่างใกล้ชิดจะช่วยให้เราไม่ประมาท และสามารถตัดสินใจได้อย่างทันท่วงทีหากมีสัญญาณว่าฝนอาจกลายเป็นระดับฝนร้อยปีครับ

ทำไมฝนร้อยปีถึงอันตราย

วิธีรับมือเมื่อฝนร้อยปีมาเยือน

    พี่หมีอยากให้ทุกคนใช้หลัก “เตรียมไว้ก่อนดีกว่าต้องแก้ตอนสาย” เพราะถึงแม้โอกาสจะเกิดเพียง 1% แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง ผลกระทบอาจหนักหนากว่าที่คาดไว้มาก วิธีรับมือที่ควรทำมี ดังนี้

 

1. เตรียมพื้นที่บ้านให้พร้อม

    ตรวจสอบทางน้ำไหล, เคลียร์สิ่งอุดตันรอบบ้าน, ยกของสำคัญขึ้นที่สูง และหากบ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ควรทำแนวป้องกันชั่วคราว เช่น ถุงทรายหรือแผ่นกั้นน้ำ

 

2. ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

    ฟังข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสังเกตข้อมูลเรดาร์ฝนเพื่อประเมินระดับความเสี่ยงในพื้นที่ที่อาศัยอยู่

 

3. สำรองพลังงานและสิ่งจำเป็น

    เตรียมไฟฉาย แบตสำรอง อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยาสามัญประจำบ้าน ไว้ใช้ในกรณีที่ไฟฟ้าดับหรือเดินทางไม่ได้

 

4. วางแผนเส้นทางอพยพ

    หากอยู่ในพื้นที่ต่ำควรมีแผน B ไว้เสมอ เช่น พื้นที่สูงใกล้บ้าน จุดรวมพลของชุมชน หรือสถานที่ราชการ

 

5. ทำประกันภัยให้ครอบคลุมภัยน้ำท่วม

    ในช่วงเวลาที่ฝนร้อยปีอาจมาแบบไม่ให้ตั้งตัว การมีประกันภัยที่ครอบคลุมความเสียหายจากน้ำท่วมทั้งบ้านและรถยนต์ จะช่วยให้เรามีเงินเยียวยาความเสียหายโดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์

 

ประกันคุ้มครองน้ำท่วมจากฝนร้อยปี มีอะไรบ้าง

    แม้ว่าเราจะไม่สามารถหยุดยั้งฝนร้อยปีได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือการ “เตรียมความพร้อม” เพื่อรับมือกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการทำ ประกันภัยที่คุ้มครองกรณีน้ำท่วม เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ฝนตกหนักแบบฝนร้อยปี น้ำท่วมบ้าน รถเสียหายจากน้ำ การมีประกันไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้คุณไม่ต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์

 

    ประกันบ้านคุ้มครองน้ำท่วม เป็นตัวเลือกที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้าม เพราะคุ้มครองทั้งโครงสร้างบ้านหลัก เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า หากเสียหายจากน้ำที่ไหลเข้าบ้าน หรือฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยบางแผนยังรวมถึงค่าวัสดุก่อสร้างซ่อมแซม และค่าชดเชยหากไม่สามารถอยู่อาศัยได้ชั่วคราวด้วย

 

    ส่วนใครที่มีรถยนต์ โดยเฉพาะคนที่ต้องจอดรถไว้กลางแจ้งหรือลุยน้ำช่วงฝนตกหนัก การเลือกทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองน้ำท่วม ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นรถที่จอดอยู่เฉย ๆ แล้วน้ำท่วมเข้าห้องเครื่อง หรือกรณีที่ขับลุยน้ำแล้วเครื่องพังเสียหาย ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุมมากกว่าแผนอื่น และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถที่มักจะสูงมากเมื่อเกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ที่จมน้ำ

 

    สุดท้ายนี้ พี่หมีอยากชวนให้ทุกคนมอง “ฝนร้อยปี” ไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือเหตุการณ์น่ากลัวที่ต้องตื่นตระหนก แต่เป็นสิ่งที่ควรทำความเข้าใจ และเตรียมตัวไว้ให้พร้อม เพราะธรรมชาติมักมาโดยไม่แจ้งเตือนล่วงหน้า แต่เราสามารถรับมือได้หากมีแผนที่ดี และมีตัวช่วยที่เหมาะสมอย่างประกันภัย ไม่ว่าจะเป็น ประกันบ้าน ที่คุ้มครองน้ำท่วม หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ดูแลแม้รถจมน้ำ ก็ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นให้กลายเป็นเรื่องเบาใจได้มาก หากคุณอยากปรึกษาเรื่องประกันภัยเพิ่มเติม โทรหา พี่หมี TQM ได้เลยที่เบอร์ 1737 พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมงครับ

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง