เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 43 ครั้ง
หลายคนคงเคยได้ยินข่าวว่า “ฝนร้อยปี” ถล่มเมืองจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน แต่เคยสงสัยไหมครับว่าจริง ๆ แล้ว “ฝนร้อยปี” คืออะไรกันแน่? ทำไมถึงมีพลังทำลายล้างมากกว่าฝนธรรมดา? และถ้าเกิดขึ้นจริงเราควรรับมือยังไงดี วันนี้พี่หมี TQM จะพาไปทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ อ่านแล้วรู้เรื่อง พร้อมแนะนำวิธีเตรียมตัวเพื่อไม่ให้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญกับพลังของธรรมชาติที่อาจมาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัว
ฝนร้อยปีคืออะไร? คำนี้ฟังดูเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวในรอบศตวรรษใช่ไหมครับ? แต่จริง ๆ แล้ว “ฝนร้อยปี” ไม่ได้แปลว่า ต้องรอครบ 100 ปีจึงจะเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง แต่หมายถึงปรากฏการณ์ฝนตกหนักมากในระดับที่มีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1% ในแต่ละปี หรือเรียกอีกแบบว่า “ฝนหนักระดับร้อยปี” (100-Year Rainfall Event) ซึ่งในเชิงสถิติ คือฝนที่ตกในปริมาณมหาศาลกว่าค่าเฉลี่ยปกติหลายเท่า ภายในระยะเวลาอันสั้น เช่น 1 ชั่วโมง หรือ 24 ชั่วโมง
พูดง่าย ๆ คือ ฝนร้อยปีอาจเกิดขึ้นในปีนี้ก็ได้ หรือเกิดซ้ำในปีหน้าเลยก็มีโอกาส เพราะมันไม่ใช่ฝนที่ต้องนับวันรอ แต่มันคือฝนที่ “รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี” ซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง ก็อาจสร้างความเสียหายหนักกว่าฝนธรรมดาทั่วไปหลายเท่าตัว
ลักษณะของฝนร้อยปี คือ ฝนที่ตกต่อเนื่องและหนักมากในระยะเวลาอันสั้น จนระบบระบายน้ำของเมืองรับไม่ไหว ทำให้น้ำท่วมฉับพลัน พื้นที่ลุ่มต่ำกลายเป็นแอ่งน้ำ บ้านเรือน ร้านค้า หรือแม้แต่ถนนก็อาจกลายเป็นคลองได้ในพริบตา และในบางพื้นที่อย่างลาดเขาหรือชายฝั่ง ก็อาจเผชิญกับน้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ หรือคลื่นพายุได้เลยทีเดียว
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น พี่หมีขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดเหตุอุทกภัย ฝนร้อยปี ที่เคยสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ เช่น
ประเทศไทย ปี 2554 : หลายคนคงยังจำมหาอุทกภัยที่เริ่มจากน้ำฝนสะสมหนักในภาคเหนือและไหลลงมายังภาคกลาง ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ และหลายจังหวัดจนต้องอพยพประชาชนจำนวนมาก
กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ปี 2022 : มีฝนตกสะสมมากกว่า 400 มม. ในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง ส่งผลให้น้ำท่วมในเขตเมืองชั้นใน มีผู้เสียชีวิตและความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล
ปากีสถาน ปี 2022 : เผชิญกับฝนร้อยปีที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ ผู้คนกว่า 33 ล้านคนได้รับผลกระทบ มีบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรเสียหายอย่างหนัก
ฝนร้อยปีไม่ใช่แค่เรื่องของ “ปริมาณน้ำฝน” ที่มากกว่าปกติ แต่ยังรวมถึง “ความเร็วในการเกิด” และ “พื้นที่ที่รับผลกระทบ” ด้วย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีพื้นที่คอนกรีตเยอะ ระบบระบายน้ำมักไม่สามารถรับน้ำได้ทัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในเวลาอันรวดเร็ว
อันตรายที่ตามมามีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
น้ำท่วมขังบ้านเรือน อาคาร ยานพาหนะ
ระบบคมนาคมเสียหาย ทำให้คนเดินทางไม่ได้
ความเสียหายต่อธุรกิจและทรัพย์สิน
การเจ็บป่วยจากน้ำสกปรก โรคระบาด น้ำกัดเท้า
ความเสี่ยงจากกระแสไฟฟ้ารั่วในพื้นที่น้ำท่วม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เสี่ยงซ้ำ เช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ ที่มีระบบระบายน้ำที่ยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร
ในทางวิชาการจะใช้ข้อมูลทางสถิติมาวิเคราะห์ครับ เช่นปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในรอบ 30–50 ปีย้อนหลัง เพื่อหาค่าเฉลี่ยสูงสุด และคำนวณว่าในระดับไหนจึงจะถือว่าเป็น “ฝนร้อยปี” หรืออาจมีการประเมินร่วมกับความสามารถของระบบระบายน้ำในพื้นที่
แต่สำหรับประชาชนทั่วไปแล้ว แม้จะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการว่า “นี่คือฝนร้อยปี” ก็ควรเริ่มใส่ใจและประเมินสถานการณ์เบื้องต้นด้วยตัวเอง หากพบว่าฝนตกหนักต่อเนื่องเกินกว่า 1–2 ชั่วโมง น้ำเริ่มระบายไม่ทัน หรือสภาพแวดล้อมรอบตัวมีความเปลี่ยนแปลงผิดปกติ เช่น น้ำเริ่มท่วมขังอย่างรวดเร็ว หรือระดับน้ำในคลองไหลแรงขึ้นผิดปกติ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่ากำลังเผชิญกับฝนระดับรุนแรงที่ควรเตรียมตัวรับมือไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนในครอบครัวครับ
สำหรับการเช็กสถานการณ์ฝนตกแบบเรียลไทม์หรือความเสี่ยงฝนร้อยปีในพื้นที่ของเรา สามารถติดตามข้อมูลได้จากแหล่งต่าง ๆ เช่น
เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา (TMD) : www.tmd.go.th ซึ่งให้พยากรณ์อากาศล่วงหน้า 7 วัน พร้อมเรดาร์ตรวจจับฝน
แอปพลิเคชัน Thai Weather หรือ TMD Weather : ติดตามปริมาณฝนและการเตือนภัยเฉพาะพื้นที่แบบรายชั่วโมง
เว็บไซต์ Hydro-Informatics Institute (HII) : www.hii.or.th ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับฝนสะสม ปริมาณน้ำฝน และน้ำท่วม
เพจเฟซบุ๊ก “พยากรณ์อากาศประเทศไทย” หรือหน่วยงานท้องถิ่น : ที่มักอัปเดตสถานการณ์ฝนแบบทันเหตุการณ์
การติดตามข้อมูลจากแหล่งเหล่านี้อย่างใกล้ชิดจะช่วยให้เราไม่ประมาท และสามารถตัดสินใจได้อย่างทันท่วงทีหากมีสัญญาณว่าฝนอาจกลายเป็นระดับฝนร้อยปีครับ
พี่หมีอยากให้ทุกคนใช้หลัก “เตรียมไว้ก่อนดีกว่าต้องแก้ตอนสาย” เพราะถึงแม้โอกาสจะเกิดเพียง 1% แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง ผลกระทบอาจหนักหนากว่าที่คาดไว้มาก วิธีรับมือที่ควรทำมี ดังนี้
ตรวจสอบทางน้ำไหล, เคลียร์สิ่งอุดตันรอบบ้าน, ยกของสำคัญขึ้นที่สูง และหากบ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ควรทำแนวป้องกันชั่วคราว เช่น ถุงทรายหรือแผ่นกั้นน้ำ
ฟังข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสังเกตข้อมูลเรดาร์ฝนเพื่อประเมินระดับความเสี่ยงในพื้นที่ที่อาศัยอยู่
เตรียมไฟฉาย แบตสำรอง อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยาสามัญประจำบ้าน ไว้ใช้ในกรณีที่ไฟฟ้าดับหรือเดินทางไม่ได้
หากอยู่ในพื้นที่ต่ำควรมีแผน B ไว้เสมอ เช่น พื้นที่สูงใกล้บ้าน จุดรวมพลของชุมชน หรือสถานที่ราชการ
ในช่วงเวลาที่ฝนร้อยปีอาจมาแบบไม่ให้ตั้งตัว การมีประกันภัยที่ครอบคลุมความเสียหายจากน้ำท่วมทั้งบ้านและรถยนต์ จะช่วยให้เรามีเงินเยียวยาความเสียหายโดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์
แม้ว่าเราจะไม่สามารถหยุดยั้งฝนร้อยปีได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือการ “เตรียมความพร้อม” เพื่อรับมือกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการทำ ประกันภัยที่คุ้มครองกรณีน้ำท่วม เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ฝนตกหนักแบบฝนร้อยปี น้ำท่วมบ้าน รถเสียหายจากน้ำ การมีประกันไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้คุณไม่ต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์
ประกันบ้านคุ้มครองน้ำท่วม เป็นตัวเลือกที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้าม เพราะคุ้มครองทั้งโครงสร้างบ้านหลัก เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า หากเสียหายจากน้ำที่ไหลเข้าบ้าน หรือฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยบางแผนยังรวมถึงค่าวัสดุก่อสร้างซ่อมแซม และค่าชดเชยหากไม่สามารถอยู่อาศัยได้ชั่วคราวด้วย
ส่วนใครที่มีรถยนต์ โดยเฉพาะคนที่ต้องจอดรถไว้กลางแจ้งหรือลุยน้ำช่วงฝนตกหนัก การเลือกทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองน้ำท่วม ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นรถที่จอดอยู่เฉย ๆ แล้วน้ำท่วมเข้าห้องเครื่อง หรือกรณีที่ขับลุยน้ำแล้วเครื่องพังเสียหาย ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุมมากกว่าแผนอื่น และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถที่มักจะสูงมากเมื่อเกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ที่จมน้ำ
สุดท้ายนี้ พี่หมีอยากชวนให้ทุกคนมอง “ฝนร้อยปี” ไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือเหตุการณ์น่ากลัวที่ต้องตื่นตระหนก แต่เป็นสิ่งที่ควรทำความเข้าใจ และเตรียมตัวไว้ให้พร้อม เพราะธรรมชาติมักมาโดยไม่แจ้งเตือนล่วงหน้า แต่เราสามารถรับมือได้หากมีแผนที่ดี และมีตัวช่วยที่เหมาะสมอย่างประกันภัย ไม่ว่าจะเป็น ประกันบ้าน ที่คุ้มครองน้ำท่วม หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ดูแลแม้รถจมน้ำ ก็ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นให้กลายเป็นเรื่องเบาใจได้มาก หากคุณอยากปรึกษาเรื่องประกันภัยเพิ่มเติม โทรหา พี่หมี TQM ได้เลยที่เบอร์ 1737 พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *