ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี

     ปัจจุบันสภาพอากาศในประเทศไทยนั้นมีทั้งฝน และ อากาศที่ร้อนจัด รวมถึงสภาพอากาศที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จนอาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่ระบาดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการป่วยเป็นไข้หวัดกันง่ายๆ และบ่อยมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเจ็บป่วยที่สามารถแพร่ระบาดได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส Influenza ที่มีการกระจัดกระจายอยู่ในอากาศ และร่างกายของเราที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และเมื่อรับเชื้อเข้าไปก็จะส่งผลให้เราเจ็บป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ โดยในปัจจุบันได้มีการป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

 

 

     วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นวิธีป้องกันเพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดใหญ่มากขึ้น ซึ่งจะสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ถึง 3-4 สายพันธุ์ โดยการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ที่เป็นแนวทางที่ดีสำหรับทุกครอบครัว เพราะถือเป็นการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันในส่วนของการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่

     ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าโรคไข้หวัดนั้นเป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ อีกทั้งไข้หวัดใหญ่ยังเป็นโรคที่มีอาการที่รุนแรงมากกว่าไข้หวัดแบบปกติ ซึ่งผู้ที่ป่วยมักจะมีอาการป่วยเรื้อรังมากกว่า 1 สัปดาห์ จึงจัดให้มีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่มากยิ่งขึ้น อีกทั้งคนทั่วไปสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้โดย ควรมีอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปสำหรับเด็กเล็ก และบุคคลที่มีความสุ่มเสี่ยงนั้นควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ควรได้รับวัคซีน ปีละ 1 เข็มเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และบรรเทาอาการรุนแรงของการป่วยลง 

 

• เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน

• ผู้ที่มีประวัติแพ้ไข่ไก่หรือส่วนประกอบของวัคซีนชนิดนี้อย่างรุนแรง

• ผู้ที่กำลังป่วยหรือเคยป่วยด้วยกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barré Syndrome: GBS)

• ผู้ที่เพิ่งหายจากอาการเจ็บป่วยเฉียบพลันไม่เกิน 7 วัน

• ผู้ที่เพิ่งนอนพักรักษาตัวและออกจากโรงพยาบาลมาได้ไม่เกิน 14 วัน

• ผู้ที่ยังควบคุมอาการของโรคประจำตัวไม่ได้ หรือมีอาการกำเริบในช่วงที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อน ว่าควรหรือไม่ในการเลือกฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เพราะมีความเสี่ยงที่อาจอันตรายต่อชีวิตได้

 

บุคคลประเภทใดหรือเกณฑ์ใดบ้างที่ ”ควร” ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ?

 

• ผู้ป่วยโรคเรื้อรังทั้ง 7 โรค ได้แก่ เบาหวาน หลอดเลือดสมอง ไตวาย หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ และโรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างได้รับเคมีบำบัด

• หญิงมีครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ 4 เดือน ขึ้นไป

• บุคคลทั่วไปที่มีอายุ 65 ปี ขึ้นไป

• เด็กเล็ก อายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี

• ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

• ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย

• ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ที่ติดเชื้อ HIV

 

 

ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี? 

 

     เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่นั้น มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ และมีการขยายสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการป่วยไปเรื่อยๆ ดังนั้นการผลิตวัคซีนในการป้องกันแต่ละปี ก็จะมีการปรับเปลี่ยน และเปลี่ยนแปลงตามสายพันธุ์ตามเชื้อของไวรัสที่พบด้วยเช่นกัน เพื่อครอบคลุมตัวเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่ได้นั่นเอง ซึ่งร่างกายของเราจะสร้างภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดใหญ่ ประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว

 

     ดังนั้นเพื่อป้องกันการป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ จึงควรเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำในทุกๆ ปีนะครับ ยิ่งช่วงนี้เข้าสู่ช่วงหน้าฝนแล้วโอกาสเจ็บป่วยก็สามารถเกิดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งอย่าลืมติดตามโรคอื่นๆ ที่อาจทำให้คุณเจ็บป่วยกับโรคหน้าฝนอีกด้วย อาจมีการป้องการด้วยการติดตามวัคซีนต่างๆ ที่ต้องฉีดให้ครบ หรือเลือกทำประกันสุขภาพเพื่อดูแลค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดการเจ็บป่วย ที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพของเราได้เช่นเดียวกัน โดยสามารถเลือกสอบถาม และปรึกษาพี่หมีได้ที่เว็บไซต์ หรือโทร 1737 พี่หมียินดีให้บริการ พร้อมมอบทางเลือกที่ดีที่สุดให้แก่คุณครับ

 

ที่มา : เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ โรงพยาบาลพญาไท

 

 READ MORE : 

 

►  ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ เพราะหอมแก้มจริงหรือ

►  ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ต้องจ่ายเท่าไหร่

►  วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่