เหตุเกิดในคืนฝนพรำ รถถูกตำกลางเลนสวน
ในคืนฝนพรำ จิ๊กกี๋ แว๊นบอยขับรถกลับบ้านผ่านเส้นทางลัดเส้นประจำ โดยที่ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตไปตลอดกาล …
จิ๊กกี๋ แว๊นบอยยุคใหม่ ใส่ใจความปลอดภัยบนท้องถนน เขาขี่บิ๊กไบค์คู่ใจคันโก้มาตามถนนเส้นทางลัดที่เป็นเลนสวนด้วยความเร็วปกติ ในค่ำคืนฝนหลงฤดูโปรยกระหน่ำ ฉับพลันจิ๊กกี๋เห็นรถเก๋งขับมาเลนตรงข้ามอยู่ลิบๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร หัวใจของเขายังคงจดจ่อกับการเดินทางกลับบ้านไปนอนพักผ่อนเต็มที่
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์เข็มขัดสั้นขึ้น (คาดไม่ถึง) = = ”
น้ำจากรถเก๋งฝั่งตรงข้ามซัดสาดมาดั่งคลื่นสึนามิ ทำให้บิ๊กไบค์คันโก้หมุนคว้างกลางอากาศสามตลบ จนร่างอันบอบบางของจิ๊กกี๋กระเด็นไปนอนแอ้งแม้งอยู่ตรงไหล่ทาง แล้วทุกอย่างเข้าสู่โหมดมืดดำ
ตัดภาพมาที่ “พี่เบิ้ม” หนุ่มร่างบิ๊กบึ้มขับรถเก๋งกลับจากที่ทำงานด้วยความรวดเร็ว เพื่อรีบตรงกลับบ้านไปหาลูกและภรรยาที่น่ารัก ระหว่างทางเขาทนความคิดถึงไม่ไหว จึงหันไปคว้าสมาร์ทโฟนขึ้นมาต่อสายหาภรรยาและลูก
ทั้งๆ ที่ฝนก็ตกลงมาไม่ขาดสาย แต่พี่เบิ้มก็หาได้แคร์ไม่ ยังคงสวีทกับภรรยา พูดจาจ๊ะจ๋าหยอกล้อกันไปมาไม่ยอมหยุด จนกระทั่ง …
เมื่อเขามองไปข้างหน้า มีมอเตอร์ไซค์คันใหญ่โตแอ้งแม้งคร่อมอยู่กลางเลน กลับตัวก็ไม่ได้ จะเบรกก็ไม่ทัน เขาเลยตัดสินใจปล่อยเลยตามเลย
ถือว่าโชคช่วย จิ๊กกี๋ไม่ได้รับบาดเจ็บมาก แต่เมื่อเขากำลังลุกขึ้นมา ก็ต้องพบกับภาพบาดตาบาดใจเกินทนรับไหว
บิ๊กไบค์คันโก้ จิ๊กโก๋ลูกรักของจิ๊กกี๋ ถูกบดขยี้อยู่ใต้ล้อรถในสภาพไม่เหลือชิ้นดี สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก จนต้องลุกไปเคลียร์
สามหนุ่มสามมุมจากรถสามคันลงมาชุมนุมกันริมถนนโดยไม่ได้นัดหมาย
สถานการณ์เริ่มยุ่งอีรุงตุงนัง จนหาข้อสรุปไม่ได้ เดือดร้อนพนักงานประกันภัยหน้ามนคนเท่ ต้องออกโรงเคลียร์สถานการณ์
เจ้าหน้าประกันภัยจึงเริ่มเอื้อนเอื่อยแถลงการณ์ ~
จิ๊กกี๋กับกอล์ฟมองหน้าประสานสายตากัน
ตัดภาพมาเป็นหน้าของเจ้าหน้าที่ประกันภัยสีหน้าผ่อนคลาย และเริ่มออกแถลงการณ์บทต่อไป
สถานการณ์ก็จบลงด้วยประการฉะนี้แล
สรุป*
แบ่งเป็น 2 กรณี
1. กรณีรถมอเตอร์ไซค์ของจิ๊กกี๋ กับ รถเก๋งของกอล์ฟ
เหตุเกิดขณะฝนตกและเป็นตอนพลบค่ำ ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดีและการควบคุมรถทำได้ยาก ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติและควรลดความเร็วเพื่อความปลอดภัย เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ของจิ๊กกี๋ ขับขี่โดยเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๓๓,๓๕ และ ๓๙ ในการขับรถ ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้ายและต้องไม่ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ต้องขับรถในช่องทางเดินรถซ้ายสุด และเมื่อขับรถสวนกัน ให้ผู้ขับขี่ขับรถชิดด้านซ้ายของทางเดินรถ โดยให้ถือกึ่งกลางของทางเดินรถเป็นหลัก แม้ว่า รถของกอล์ฟขับรถแล้วทำให้น้ำกระเด็นสาดมาโดนรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำนั้น ก็เป็นเหตุสุดวิสัยที่จะสามารถกระทำได้ในสถานการณ์เหตุเกิดขณะฝนตก แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นเนื่องจากความประมาทของรถมอเตอร์ไซค์ของจิ๊กกี๋ ฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น
2. กรณีรถมอเตอร์ไซค์ของจิ๊กกี๋ กับ รถของพี่เบิ้ม
สืบเนื่องจากอุบัติเหตุดังกล่าวข้างต้น ทำให้ รถมอเตอร์ไซค์ของจิ๊กกี๋ พลิกคว่ำลื่นไถลเข้ามาในช่องทางเดินรถของฝั่งตรงข้าม เหตุเกิดขณะฝนตกและเป็นตอนพลบค่ำ ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดีและการควบคุมรถทำได้ยาก ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติและควรลดความเร็วเพื่อความปลอดภัย เมื่อรถของพี่เบิ้ม ขับขี่ด้วยความเร็วโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและเดือดร้อนของผู้อื่น และในขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓(๔),(๘) และ (๙) ทำให้ไม่สามารถที่จะหยุดรถได้โดยปลอดภัยในเมื่อจำเป็นต้องหยุดรถ เนื่องจากความประมาทของพี่เบิ้ม ฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นเป็นที่ยุติ เป็นกรณีที่ต่างฝ่ายต่างประมาทในระหว่างจิ๊กกี๋ และพี่เบิ้ม ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะพึงประมาณนั้น ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และความร้ายแรง ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาทอันทำให้เกิดอุบัติเหตุมากกว่ากัน