10/01/60

|

อ่านแล้ว 40 ครั้ง

ครบเครื่องเรื่องประกันภัยเบื้องต้น

ประกันภัยแบบไหน เหมาะกับใครนะ ?

 

  สำหรับใครที่เพิ่งซื้อรถเป็นครั้งแรก และยังมีความงุนงงเรื่องประกันภัย วันนี้พี่หมีจะพาไปทำความรู้จักกับประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท ว่ามีอะไร แตกต่างกันยังไง แล้วอะไรที่เหมาะกับเราบ้าง ?

ประกันภัยรถยนต์ แบ่งเป็น 2 ประเภท

1. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.รถยนต์)

  คือ ประกันภัยที่กฎหมายบังคับให้ทุกคนที่มีรถต้องทำ เพื่อคุ้มครองผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทั้งคนขับ ผู้โดยสาร คู่กรณี รวมถึงคนเดินถนน ตามจำนวนเงินที่กฎหมายกำหนด แต่จะไม่คุ้มครองทรัพย์สินที่เสียหาย ซึ่งถ้าหากไม่ทำก็จะถูกปรับตามจำนวนเงินที่กฎหมายกำหนด

 

2. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

  คือ ประกันภัยที่เจ้าของรถสมัครใจทำกับบริษัทประกันภัยต่างๆ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั้งทรัพย์สินและบุคคลตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่เมื่อคุ้มครองเพิ่ม ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะตัดสินใจทำประกันประเภทใดนั้นควรพิจารณาจากมูลค่าของรถ และอายุรถ โดยถูกแบ่งย่อยเป็น 4 ประเภทหลักๆ  

กรมธรรม์ประเภทที่ 1

  ประกันรถยนต์ชั้น 1  เป็นประกันที่คุ้มครองครอบคลุมที่สุด มีเงื่อนไขว่ารถนั้นต้องอยู่ในสภาพดี และมีอายุไม่เกิน 7 ปี ซึ่งราคาเบี้ยจะสูงขึ้นตามอายุรถ ดังนั้นผู้ที่เพิ่งซื้อรถยนต์ใหม่จึงเหมาะจะทำประกันนี้

  • คุ้มครองทรัพย์สิน ทั้งรถของเราและคู่กรณี

  • คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกายและชีวิต

  • เคลมได้แม้ไม่มีคู่กรณี เช่น โดนหินตกใส่กระจกแตก ชนเสา เป็นต้น

  • โจรกรรม ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ

กรมธรรม์ประเภทที่ 2

  • คุ้มครองรถและทรัพย์สินเฉพาะคู่กรณี

  • คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกายและชีวิต

  • โจรกรรม และไฟไหม้

กรมธรรม์ประเภทที่ 3

  ส่วนใหญ่รับทั้งรถส่วนบุคคลและรถสาธารณะ เป็นประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสำหรับคนที่อยากลดความเสี่ยงเวลาขับรถไปชนคนอื่น และสามารถดูแลค่าใช้จ่ายรถตัวเองได้

  • คุ้มครองเฉพาะรถและทรัพย์สินของคู่กรณี

  • คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกายและชีวิต

กรมธรรม์ประเภทที่ 5

  •  ประกันรถยนต์ 2+ เป็นประกันรถยนต์ที่ได้รับความคุ้มครองรองลงมาจากประกันชั้น 1 ซึ่งจะคุ้มครองต่อเมื่อมีคู่กรณี รถหาย และไฟไหม้ ดังนั้นจึงเหมาะกับรถที่ติดแก๊ส และคนที่อยากป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุใหญ่ รถหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ

  •  ประกันรถยนต์ 3+ ความคุ้มครองของประกันชนิดจะเหมือนกับ 2+ คือคุ้มครองอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี แต่ต่างตรงที่จะไม่คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ เหมาะกับคนที่รถไม่มีความเสี่ยงจากการติดแก็ส โจรกรรม และภัยธรรมชาติ

 

  การทำประกันรถยนต์นั้นช่วยให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นเมื่อยามเกิดอุบัติเหตุในระดับหนึ่งใช่ไหมครับ ด้วยความเป็นห่วงพี่หมีจึงอยากแนะนำในส่วนของพื้นฐานให้หลายคนเข้าใจก่อนตัดสินใจทำประกัน จะเลือกแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับความคุ้มครองและคุ้มค่าด้วยนะครับ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็ต่อสายตรงหาพี่หมีได้ที่ Hotline 1737 หรือที่นี่ www.tqm.co.th ได้เลยครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล