เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 1,359 ครั้ง
ใครเป็นบ้าง? ทำงานประจำ ได้เงินเดือนราวๆ 15,000-20,000 บาท มีรายจ่ายอื่นๆ อีกในทุกเดือน แต่อยากทำประกันสุขภาพที่ช่วยชดเชยค่ารักษาพยาบาล หรือช่วยชดเชยรายได้เมื่อเข้าโรงพยาบาล พอเข้าไปเช็กราคา ต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท/เดือน หรือเท่ากับไม่ต่ำกว่า 36,000 บาท/ปี กลับต้องหยุดชะงัก ไม่ควักเงินไปซื้อประกันสุขภาพแล้ว เพราะแบบนี้จึงเกิดเป็นคำถาม เงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะซื้อประกันสุขภาพได้ วันนี้พี่หมี TQM จะพาไปหาคำตอบกันครับ
แม้ว่ามนุษย์เงินเดือนจะเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความมั่นคงทางการเงิน มักได้รับสวัสดิการการรักษาพยาบาลจากองค์กรที่ตนเองทำงานอยู่แล้ว แต่ก็ควรซื้อประกันสุขภาพเพิ่ม เนื่องจากความคุ้มครองจากสวัสดิการมักไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้นทุกปี ทำให้มนุษย์เงินเดือนมักต้องจ่ายส่วนเพิ่มด้วยตนเอง
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า แผนประกันสุขภาพนั้นมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความคุ้มครองที่เลือก ถ้าแผนไหนจ่ายเบี้ยเยอะ คุ้มครองก็จะสูง แผนไหนจ่ายเบี้ยน้อยก็คุ้มครองน้อยเป็นธรรมดา แล้วเราจะเลือกซื้อแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับเงินเดือนหรือกำลังทรัพย์ที่พอจะจ่ายไหว และยังต้องดูถึงอนาคตว่าเราจ่ายต่อไหวไหม เพราะประกันสุขภาพบางบริษัทปรับเบี้ยขึ้นตามอายุ
ประกันสุขภาพบางตัว ให้คุณจ่ายเดือนละ 1,000 ก็มี 2,000 ก็มี 3,000 ก็มี 10,000 ก็มี มันขึ้นอยู่กับว่า บริษัทจะมีแผนประกันให้เลือกเยอะขนาดไหน ถ้าเยอะมาก มันก็จะมีหลายราคา พอมีหลายราคา ลูกค้าก็มีโอกาสที่จะเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมมากกว่าบริษัทที่มีแบบประกันน้อยๆ หรืออีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือ เช็กเบี้ยประกันสุขภาพกับบริษัทโบรกเกอร์ประกันอย่าง TQM ที่มีประกันให้คุณเลือกหลายบริษัท และยังซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่า เช่น ประกันสุขภาพมนุษย์เงินเดือน จากกรุงเทพประกันภัย เบี้ยเริ่มเพียง 20 บาท/วัน คุ้มครองสูงสุดถึง 400,000 บาท "ลดหย่อนภาษีได้" ไม่กระทบเงินเก็บ
แต่นอกจากจะดูรายได้ต่อเดือนแล้ว ยังมีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ ดังนี้
ประกันสุขภาพส่วนใหญ่ จะคิดอัตราเบี้ยประกันปรับเปลี่ยนไปตามอายุ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงในแต่ละช่วงอายุ แต่นอกจากเรื่องอายุ ยังมี เพศ อาชีพ สุขภาพ วิธีการดำเนินชีวิต เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเบี้ยประกันด้วย
เบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะสมควรจ่ายไม่เกิน 10-15% ของรายได้รวมทั้งปี เช่น มีรายได้ต่อเดือน 15,000 บาท หนึ่งปีจะมีรายได้รวม 180,000 บาท เมื่อคิดค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายในหนึ่งปีที่ 10% คิดเป็นเงิน 18,000 บาทต่อปี หรือถ้ารับได้ที่ 15% ก็จะคิดเป็นเงิน 27,000 บาทต่อปี
ทำอย่างไรเมื่อมีประกันสุขภาพ แต่พอเอาเข้าจริง เคลมค่ารักษาได้ไม่ครอบคลุม ฉะนั้นก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพจะต้องคำนวณความเสี่ยงการเกิดโรค คิดถึงกรณีที่คุณป่วยหนัก และเลือกประกันสุขภาพที่มีเงินคุ้มครองสูงพอที่จะครอบคลุมค่ารักษาทั้งหมด
เลือกทำประกันสุขภาพ ใช่ว่าจะคุ้มครองทุกโรค ฉะนั้นเราจะต้องประเมินความเสี่ยงของตัวเองว่าสามารถป่วยเป็นโรคอะไรบ้าง โดยพิจารณาจาก กรรมพันธุ์ หรือโรคประจำตัว แล้วค่อยเลือกประกันสุขภาพที่คุ้มครองครอบคลุมโรคที่เสี่ยง เช่น คนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน แสดงว่าคุณมีความเสี่ยง จะต้องหาประกันสุขภาพที่ครอบคลุมโรคเบาหวาน บริษัทประกันสามารถจ่ายค่ารักษาและเงินชดเชยให้คุณได้
หากป่วยเข้าโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น ยังมีค่าห้องรักษา ค่าผ่าตัด ค่ายากรณีไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ค่ารถพยาบาล เป็นต้น จึงจำเป็นต้องเลือกประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) คุ้มครองค่าบริการอื่นๆ ที่นอกเหนือจากค่ารักษาพยาบาลด้วย
แนะนำ ประกันสุขภาพที่คุ้มครองทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) สนใจคลิกที่นี่
อาการเจ็บป่วยไม่เลือกเวลาเกิด และถ้าเกิดป่วยในสถานที่ไกลจากโณงพยาบาลในเครือประกันสุขภาพ คุณอาจเสียสิทธิ์การเคลมค่ารักษา ฉะนั้นควรเลือกประกันสุขภาพที่ให้คุณรักษาโรงพยาบาลได้หลากหลาย ครอบคลุมทุกพื้นที่
การซื้อประกันสุขภาพเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงทั้งด้านสุขภาพและการเงิน ถ้าเราไม่ลองคำนวณรายได้กับค่าใช้จ่าย รวมถึงปัจจัยอื่นๆ อาจทำให้เงินเก็บที่คุณสะสมมาหลายปีหายไปในพริบตา หรืออาจจะได้ประกันสุขภาพที่ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อประกันสุขภาพ ควรดูพิจารณาตารางเบี้ยประกันสุขภาพ ว่าเหมาะสมกับรายรับเเละค่าใช้จ่ายที่คุณมีหรือไม่ เพื่อให้คุณได้ประกันสุขภาพที่เหมาะกับเงินเดือนของคุณที่สุด
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *