มะเร็งกระเพาะปัสสาวะมะเร็งยอดฮิต

     ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามะเร็งถือเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยในลำดับต้นๆ หนึ่งในนั้นคือมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ที่มักพบในกลุ่มของคนทำงาน จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติในปี 2558 พบว่าผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มีอายุสูงกว่า 55 ปี โดยผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าผู้หญิงถึง 3 เท่า! ซึ่งมักพบในช่วงอายุมากกว่า 40 ปี สำหรับชนิดของมะเร็งปัสสาวะที่พบบ่อย คือ

 

มะเร็งชนิดเซลล์ทรานซิซัน

เกิดจากเซลล์ทรานซิชัน (Transitional Cell Carcinoma) โดยเป็นเซลล์เยื่อบุผิดส่วนใหญ่ที่พบในกระเพาะปัสสาวะ แล้วเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็ง เป็นชนิดที่พบได้บ่อยในคนไทยประมาณ 90%

 

มะเร็งชนิดเซลล์สความัส

เซลล์มะเร็งสความัส (Squamous Cell Carcinoma) เป็นเซลล์เยื่อบุผิวที่พบได้น้อย โดยจะเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งเนื่องจากกระเพาะปัสสาวะเกิดการระคายเคือง หรือมีอาการติดเชื้อ มักลุกลามเข้าสู่ผนังกระเพาะปัสสาวะทำให้รักษายาก มักในคนไทยประมาณ 5%

 

เพื่อป้องกันไม่ให้โรคร้ายมาเยือน! พี่หมีมีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมาบอกครับ

 

- การสูบบุหรี่ หรืออยู่ในที่ที่มีควันบุหรี่ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

- การทำงานที่ต้องคลุกคลีกับสารอันตรายอย่าง สีทาบ้าน, สีย้อม, ยาง, สิ่งทอ, หนัง หรือสารหนู ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปัสสาวะเช่นกัน เนื่องจากกระเพาะปัสสาวะต้องสัมผัสกับสารพิษดังกล่าว แล้วขับออกมาทางปัสสาวะ

- การทานอาหารที่มีไข้มันสูง หรือดื่มน้ำน้อย

- มีอาการติดเชื้อ หรือเกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารแบบเรื้อรัง

- ผู้ที่เคยใช้ยาเคมีบำบัด เช่น ไซโคลฟอสฟาไมด์ หรือเคยเข้ารับการรักษามะเร็งด้วยรังสีที่อุ้งเชิงกราน

- เกิดจากการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์

 

หากพบอาการดังต่อไปนี้ ให้สันนิษฐานเอาไว้ก่อนเลยว่า มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และควรรีบพบแพทย์ทันที

- ปัสสาวะปนเลือด โดยมีสีอ่อนคล้ายเครื่องดื่มโคล่า

- ตรวจพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ

- มีอาการเจ็บหรือแสบขณะปัสสาวะ หรืออาจไม่มีอาการเจ็บใดๆ

- มีอาการปวดหลัง และเจ็บอุ้งเชิงกราน

- ปวดปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะแบบเฉียบพลัน และกลั้นปัสสาวะไม่อยู่

- มีอาการปัสสาวะไม่ออก หรือปวดท้อง

- หากมะเร็งลุกลามไปยังส่วนอื่นในร่างกาย ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลังส่วนล่าง ปวดกระดูก เท้าบวม มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และคลำพบต่อมน้ำเหลืองโต

 

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะมี 4 ระยะ และมีความรุนแรงที่ต่างกันดังต่อไปนี้

 

ระยะที่ 1 : มีเนื้อมะเร็งบริเวณเยื่อบุภายในกระเพาะปัสสาวะ

ระยะที่ 2 : มะเร็งอาจลุกลามเข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ

ระยะที่ 3 : มะเร็งลุกลามเข้าสู่ผนังกระเพาะปัสสาวะ และเซลล์มะเร็งลุกลามไปบริเวณเนื้อเยื่อรอบๆ กระเพาะปัสสาวะ

ระยะที่ 4 : มะเร็งลุกลามเข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง และแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย อาทิ ต่อมน้ำเหลือง ตับ ปอด หรือกระดูก

 

ตามข้อมูลของโรงพยาบาลบํารุงราษฎร์ สามารถทำการรักษาโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ  ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

- ทำการผ่าตัดโดยส่องกล้องผ่านท่อปัสสาวะเข้าไปตัดเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ โดยเป็นวิธีที่ทำลายก้อนมะเร็ง แล้วนำเนื้อเยื่อมาตรวจหาว่าเป็นมะเร็งชนิดใด และลุกลามไปขั้นไหนแล้ว

- การรักษาโดยให้ยาเซลล์มะเร็ง ซึ่งช่วยให้ลดการกลับมาเป็นมะเร็งอีก

ทั้งทั้งนั้น วิธีที่กล่าวมาข้างต้นสามารถทำการรักษาได้กับผู้ป่วยในระยะเริ่มแรก หากมะเร็งลุกลามเข้าสู่กล้ามเนื้อ หรือเป็นตั้งแต่ระยะที่ 2 ขึ้นไป แพทย์จะทำการพิจารณาถึงแนวทางการรักษาว่าต้องทำอย่างไร

 

 

     ที่ป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ต้องดูแลสุขภาพตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งลุกลาม หรืออาการทรุดลง รวมถึงหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงทำให้อาการแย่ลง ที่สำคัญคือควรเข้าพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้น หากพบอาการผิดปกติ พี่หมีแนะนำให้รีบพบแพทย์โดยด่วน เพื่อหากพบว่าป่วยเป็นโรคใดก็ตามจะได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที

 

    อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลยคือการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายไม่มีสิ่งผิดปกติ หรือเสี่ยงเป็นโรคร้าย! ที่สำคัญคือการทำประกันสุขภาพเพื่อให้การคุ้มครองค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเช่นกัน โดยที่ TQM มีประกันสุขภาพสำหรับมนุษย์เงินเดือน ที่ให้การคุ้มครองสูงสุด 4 แสนบาท ผ่อน 0% และไม่ต้องสำรองจ่าย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ที่มาจากเรื่อง :  "มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ" www.bumrungrad.com/th/conditions/bladder-cancer

 

READ MORE : 

 

►  ข้อดีของการทำประกันมะเร็ง

►  5 อันดับโรคมะเร็งที่เกิดกับคนไทย

►  มะเร็งเต้านม มะเร็งยอดฮิตของผู้หญิง