วิธีตรวจเช็คสภาพรถด้วยตัวเอง ก่อนปีใหม่

 

     ปีใหม่ทั้งทีหลายคนคงเตรียมแพลนการเดินทางกันไว้แล้วใช่ไหมครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องการเดินทางเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อนฝูง หรือ คู่รักที่จะพักผ่อนร่างกายในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ ซึ่งหลายคนนั้นเลือกวิธีการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เพื่อความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัว โดยอาจต้องเดินทางหลายร้อยกิโล หรือ อาจเป็นพันก็ขึ้นอยู่กับระยะทางในการเดินทางที่จะเลือกขึ้นเหนือล่องใต้กัน

 

 

     อีกสิ่งที่สำคัญที่พี่หมีอยากมาแนะนำคือ การเลือกเช็คสภาพรถยนต์คู่ใจก่อนออกเดินทาง โดยพี่หมีจุดที่ต้องเช็คลิทส์กันไว้ก่อนเดินทาง ซึ่งการขับรถทางไกลนอกจากร่างกายของเราจะเมื่อยล้าจากการขับรถแล้ว รถยนต์ก็ต้องทำงานหนักเช่นเดียวกัน หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าในทุกๆ การเดินทางควรมีการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ตัวคนเอง ผู้โดยสารในรถ และผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งเราสามารถเช็คด้วยตัวเองเบื้องต้นง่ายๆดังนี้

 

     สิ่งที่ต้องตรวจคือ ความดันลมยาง ดอกยาง หรือ รอยฉีกขาดของล้อ หรือยางรถยนต์ และเช็คดูในส่วนของน๊อตยึดล้อว่ามีการขันที่แน่นดีหรือไม่ หรือ แน่นมากเกินไปรึเปล่า เพราะรถยนต์สิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนคือยางรถยนต์ และควรตรวจสอบว่าเนื้อยางรถนั้นมีเหลือมากน้อยเพียงใดก่อนออกเดินทางด้วยนะครับ

     ไฟรถยนต์ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทางเพราะหลายคนนั้นชอบเดินทางในตอนกลางคืน ที่ต้องพึ่งแสงไฟเป็นอย่างมาก ควรเช็คทั้งในส่วนของไฟหน้ารถปกติ ระบบไฟสูง ไฟต่ำ ไฟฉุกเฉิน และ ไฟเลี้ยวว่าติดทุกดวง เพราะการขับขี่รถบางครั้งต้องใช้สัญญาณจากไฟรถยนต์

     จุดรั่วซึมต่างๆ กือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นรอยน้ำมันเครื่องหยด น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ หรือ มีของเหลวที่รั่วซึมมาจากจุดไหนของรถยนต์ หรือ ใต้ท้องรถหรือไม่ หากพบให้รีบนำรถไปให้ช่างตรวจดูทันที อย่าออกเดินทางหากพบจุดรั่วซึมเด็ดขาด

     ควรเช็คระบบเบรคก่อนออกเดินทาง เพราะเบรกก็เป็นสิ่งที่สำคัญในยามขับรถ ควรเช็คว่าระบบเบรกรถยนต์ของเรามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ มีน้ำมันเบรกหรือเปล่า เบรกเสียงดังไหม มีอาการเบรกเสื่อมหรือไม่ ควรเช็คให้แน่ใจซึ่งควรตรวจดูตั้งแต่เนินๆ ซึ่งหากใครที่พึ่งเปลี่ยนมาใหม่อาจจะยังไม่ชินกับระยะการเบรคของตัวเบรคใหม่นั่นเอง

     เช็คหัวเข็มขัดว่ามีหัวล็อคที่สามารถทำงานได้ดีหรือไม่ และ มีครบทั้งเบาะนั่งด้านข้างคนขับและผู้โดยสารด้านหลัง ที่ควรต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งทุกครั้งที่เดินทาง

     เครื่องปรับอากาศถือเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางไกล หรือ เช็คในส่วนของน้ำยาแอร์ เพราะคุณคงไม่อยากขับรถแบบร้อนๆ หรือ เปิดหน้าต่างเพื่อสัมผัสกับฝุ่นควันด้านนอกสักเท่าไหร่

     ปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์หมดนั้นถือเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อย แต่จะดีกว่าหรือไม่หากเตียมความพร้อมไว้ก่อนออกเดินทาง เพราะหากสัญจรในทางที่รถยนต์ขับผ่านน้อย แล้วแบตเตอรี่รถดันหมดพอดี อาจต้องรอผู้เข้ามาช่วยเหลืออีกนานเลยก็ได้ ดังนั้นควรเช็คให้ดีว่ามีแบตเตอรี่มีความเสื่อมสภาพหรือไม่

 

 

     อีกสิ่งที่ถือว่าสำคัญไม่แพ้กันในการเดินทางที่พี่หมีจะแนะนำคือ การเลือกทำประกันรถยนต์ หรือ เช็คอายุกรมธรรม์ของประกันที่เราทำว่าใกล้จะหมดอายุหรือยัง หากใกล้หมดอายุแล้วก็ควรรีบต่อก่อนออกเดินทาง โดยสามารถเลือกเช็คเบี้ยประกัน เปรียบเทียบประกันกันได้ง่ายๆ ผ่าน TQM เลือกแผนประกันรถยนต์ตามที่คุณต้องการได้เลยครับ

 

READ MORE : 

 

►  อัพเดท 10 แยกในกรุงเทพฯ ที่ควรหลีกเลี่ยง

►  เช็คด่วน 66 ถนนทั่วกรุงเทพฯ เก็บค่าจอดรถ

►  รวมเส้นทางควรเลี่ยงช่วงสงกรานต์